แชร์

ธุรกิจยื่นภาษีให้กรมสรรพากรได้ทางไหนบ้าง?

อัพเดทล่าสุด: 1 ก.ย. 2025
99 ผู้เข้าชม

ปัจจุบันธุรกิจที่ออกใบกำกับภาษีและใบรับอิเล็กทรอนิกส์ หรือที่เราเรียกกันว่า e-Tax invoice & e-Receipt จำเป็นต้องส่ง ข้อมูลภาษีอิเล็กทรอนิกส์ ให้กับกรมสรรพากรเพื่อใช้ในการตรวจสอบและบันทึกข้อมูลตามกฎหมาย ข้อมูลที่ถูกส่งนั้นไม่ใช่ไฟล์ PDF ของเอกสาร แต่เป็น ไฟล์ข้อมูล XML ที่มีโครงสร้างตรงตามมาตรฐานที่กรมสรรพากรกำหนด

บทความนี้จะพาคุณมาทำความเข้าใจว่า ธุรกิจสามารถส่งข้อมูลภาษีให้กรมสรรพากรได้กี่ช่องทาง และแต่ละวิธีมีข้อดีข้อควรพิจารณาอย่างไร

 

ทำไมธุรกิจต้องส่งข้อมูลภาษีให้กรมสรรพากร 


การจัดทำเอกสารภาษีแบบอิเล็กทรอนิกส์ไม่ใช่เพียงแค่การปฏิบัติตามข้อบังคับ แต่ยังเป็นการยกระดับระบบงานขององค์กรให้สอดคล้องกับยุคดิจิทัล เพราะกรมสรรพากรต้องการให้ทุกธุรกิจสามารถยื่นและส่งข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพและลดความซ้ำซ้อนในการทำงาน เพิ่มความโปร่งใสตรวจสอบได้

การส่งข้อมูลภาษีให้กรมสรรพากรอย่างถูกต้องครบถ้วน ยังช่วยสร้างความน่าเชื่อถือให้กับธุรกิจและส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดี เพราะข้อมูลภาษีเป็นหลักฐานทางภาษีที่ตรวจสอบได้จริง และยังช่วยให้องค์กรมีข้อมูลที่เป็นระบบ สามารถนำไปวิเคราะห์เพื่อการวางแผนธุรกิจในอนาคตได้

 

ช่องทางการส่งข้อมูลภาษีให้สรรพากร 

กรมสรรพากรได้กำหนดช่องทางสำหรับการส่ง e-Tax invoice และ e-Receipt ไว้หลากหลาย เพื่อให้ธุรกิจเลือกใช้งานได้อย่างเหมาะสมตามรูปแบบการดำเนินงานของแต่ละองค์กร โดยแบ่งออกเป็น 3 ช่องทางหลัก ดังนี้

1. ส่งผ่าน Web Upload ของกรมสรรพากร 

ธุรกิจสามารถเข้าไปที่เว็บไซต์ของกรมสรรพากรเพื่อ อัปโหลดไฟล์ XML ที่จัดทำตามมาตรฐานที่กำหนด วิธีนี้เหมาะสำหรับผู้ประกอบการรายย่อยหรือธุรกิจที่มีปริมาณเอกสารไม่มาก


ข้อดีของการส่งผ่าน Web Upload

  • ใช้งานง่าย ไม่ซับซ้อน 
  • ไม่ต้องลงทุนพัฒนาระบบเพิ่ม 

ข้อเสียของการส่งผ่าน Web Upload

  • ไม่เหมาะกับธุรกิจที่มีปริมาณเอกสารจำนวนมาก 
  • ต้องอัปโหลดเองทุกครั้ง 
แม้วิธีนี้จะสะดวกและไม่ต้องลงทุนด้านระบบ แต่ข้อจำกัดคือความยุ่งยากเมื่อมีปริมาณเอกสารมาก เพราะต้องอัปโหลดไฟล์ด้วยตนเองทุกครั้ง

2. ส่งผ่าน Service Provider 

ธุรกิจสามารถเลือกใช้ ผู้ให้บริการที่ได้รับการรับรองจากกรมสรรพากร (Service Provider) ซึ่งจะมีระบบกลางที่ช่วยจัดการและส่งไฟล์ XML ให้สรรพากรโดยอัตโนมัติ

ข้อดีของการส่งผ่าน Service Provider

  • ได้ระบบสำเร็จรูปพร้อมใช้งาน 
  • มีทีมซัพพอร์ตจากผู้ให้บริการ คอยช่วยเหลือด้านเทคนิค
  • เหมาะสำหรับธุรกิจที่ไม่ต้องการลงทุนสร้างระบบเอง

ข้อควรพิจารณาในการเลือกส่งผ่าน Service Provider

  • มีค่าใช้จ่ายรายเดือนหรือรายปี แต่คุณสามารถพิจารณาจากความคุ้มค่าได้
  • ต้องเลือกผู้ให้บริการที่เชื่อถือได้ มีใบ Certificate และได้รับการรับรองจากกรมสรรพากร ซึ่งสามารถดูได้ที่หน้าเว็บไซต์ของกรมสรรพากร
วิธีนี้เหมาะสำหรับธุรกิจที่มีปริมาณเอกสารปานกลางถึงมาก และไม่ต้องการแบกรับค่าใช้จ่ายด้าน IT Infrastructure เอง แต่จะมีค่าใช้บริการรายเดือนหรือรายปี

3. ส่งผ่าน Host to Host

เหมาะสำหรับองค์กรขนาดใหญ่ที่ต้องการพัฒนาระบบ e-Tax invoice ของตัวเองเพื่อเชื่อมต่อระบบภายในองค์กร เช่น ERP, โปแกรมบัญชี หรือซอฟต์แวร์อื่น ๆ ให้รวบรวมข้อมูลเอกสารภาษีต่าง ๆ และต้องตรงถึงระบบของกรมสรรพากรโดยตรง ทำให้สามารถส่งเอกสารได้แบบอัตโนมัติ มีความแม่นยำปลอดภัยสูง และปรับแต่งได้ตามความต้องการ

ข้อดีของการส่งภาษีในรูปแบบ Host to Host

  • ลดขั้นตอนการทำงาน ไม่ต้องอัปโหลดไฟล์เอง 
  • รองรับปริมาณเอกสารจำนวนมาก 
  • ทำงานแบบ Real-time และตรวจสอบสถานะได้ทันที 

ข้อควรพิจารณาในการส่งภาษีในรูปแบบ Host to Host

  • ต้องเป็นองค์กรที่มีปริมาณใบกำกับภาษีมากกว่า 500,000 ใบต่อเดือน
  • ต้องลงทุนด้านระบบและบุคลากร 
  • เหมาะกับองค์กรที่มีโครงสร้าง IT รองรับ 
วิธีนี้แม้ต้องลงทุนด้านการพัฒนาและเชื่อมต่อระบบ แต่ก็แลกมากับความสะดวกสบายและความรวดเร็วแม่นยำในการส่งข้อมูล นอกจากนี้ยังมีความปลอดภัยสูงด้วย ซึ่งคุณสามารถอ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Host to Host ได้ที่นี่

เลือกช่องทางไหนให้เหมาะกับธุรกิจของคุณ?

การเลือกช่องทางในการส่งข้อมูลภาษีของคุณให้กรมสรรพากร คุณควรพิจารณาจากปัจจัยต่าง ๆ เช่น

  • ขนาดธุรกิจและปริมาณเอกสาร คุณสามารถดูปริมาณเอกสารต่อเดือนที่คุณต้องนำส่งสรรพากรได้
  • งบประมาณในการลงทุนระบบ โดยส่วนใหญ่แล้ว การอัปโหลดไฟล์หรือการจัดการเอกสารแบบเดิม ๆ อาจทำให้คุณเสียต้นทุนมากเกินความจำเป็น ดังนั้นการเลือกพิจารณาใช้ระบบ e-Tax invoice & e-Receipt อาจเป็นทางเลือกที่เหมาะสม
  • ความต้องการด้านความสะดวกและการอัตโนมัติของการทำงาน ถ้าหากคุณต้องการลดต้นทุน ลดภาระงานของพนักงาน และสร้างการส่งข้อมูลภาษีแบบอัตโนมัติ ก็สามารถใช้ระบบ e-Tax invoice & e-Receipt เพื่อความสะดวกสบายได้เช่นกัน

EtaxWise ช่วยคุณส่งข้อมูลภาษีได้ครบจบในที่เดียว

EtaxWise คือระบบ e-Tax invoice & e-Receipt ที่จะมาช่วยให้ธุรกิจของคุณส่งเอกสารภาษีให้สรรพากรได้อย่างถูกต้อง รวดเร็ว และปลอดภัย เพราะเราเป็น Advance Service Provider  ที่ได้รับการรับรองจากกรมสรรพากร นอกจากนี้เรายังสามารถช่วยหาโซลูชันที่เหมาะสมกับธุรกิจของคุณได้ ไม่ว่าจะเป็นการ Customize ระบบหรือการพัฒนาและสร้างระบบ e-Tax invoice แบบ Host to Host ให้กับคุณ โดยทีมงานผู้เชี่ยวชาญ ดังนั้น ถ้าหากว่าคุณกำลังมองหาระบบ e-Tax invoice & e-Receipt อยู่ ก็สามารถทักมาขอรับคำปรึกษาจากทีมงานผู้เชี่ยวชาญของเราได้ที่ลิงก์นี้เลย : https://liff.line.me/2007600368-jEAYm842?chatcone_state=6858fe0e32770a3973ca90c8 


บทความที่เกี่ยวข้อง
Tax Point จุดเสียภาษีกับผู้ใช้ระบบ e tax invoice
ทำความเข้าใจ Tax Point จุดเกิดภาระภาษีทั้งการขายและบริการ พร้อมวิธีออกใบกำกับภาษีผ่านระบบ e-Tax ให้ถูกต้อง ตรงเวลาและแม่นยำ
Nane Ati
26 ก.ย. 2025
วางแผนยื่นภาษีปี 2569 รวมสิทธิ์ลดหย่อนภาษีที่ต้องรู้
วางแผนภาษีบุคคลธรรมดา 2569 ด้วยเช็กลิสต์สิทธิ์ลดหย่อน ใช้ได้จริงทุกหมวด ประกันสุขภาพ กองทุน บ้าน และบริจาค เพื่อยื่นภาษีอย่างมั่นใจ
Nane Ati
24 ก.ย. 2025
เลขประจำตัวผู้เสียภาษี คืออะไร ใช้เลขไหนถึงถูกต้อง
การดูเลขประจำตัวผู้เสียภาษีสำหรับคนไทยก็คือเลขบัตรประชาชน แต่ถ้าเป็น บริษัทหรือห้างหุ้นส่วน ก็ใช้เลขนิติบุคคล เพียงแต่ต้องไปยื่นแจ้งต่อสรรพากร
Nane Ati
24 ก.ย. 2025
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ
Powered By MakeWebEasy Logo MakeWebEasy