แชร์

เลขประจำตัวผู้เสียภาษี คืออะไร? ใช้เลขไหนถึงถูกต้อง 

อัพเดทล่าสุด: 24 ก.ย. 2025
28 ผู้เข้าชม
เมื่อพูดถึงการเสียภาษี ไม่ว่าจะเป็น บุคคลธรรมดา หรือ นิติบุคคล สิ่งสำคัญที่สุดที่ต้องมีคือ เลขประจำตัวผู้เสียภาษี (Tax ID) เพราะเป็นหมายเลขที่ใช้ยืนยันตัวตนทางภาษีในการทำธุรกรรม ออกเอกสาร และยื่นแบบกับกรมสรรพากร แต่หลายคนอาจยังสับสนว่าเลขนี้คือเลขเดียวกันกับ เลขบัตรประชาชน หรือ เลขทะเบียนนิติบุคคล หรือไม่ วันนี้ EtaxWise จะมาอธิบายให้เข้าใจอย่างละเอียด 
 

เลขประจำตัวผู้เสียภาษี คืออะไร 

เลขประจำตัวผู้เสียภาษี คือหมายเลขที่กรมสรรพากรกำหนดขึ้นเพื่อใช้ยืนยันตัวตนของผู้เสียภาษี ทั้งในกระบวนการยื่นแบบ ชำระภาษี ออกเอกสารให้คู่ค้า หรือใช้ติดต่อหน่วยงานราชการ สถาบันการเงิน และการทำธุรกิจต่าง ๆ 
- เดิมที เลขประจำตัวผู้เสียภาษีจะเป็น เลข 10 หลัก 
- ปัจจุบัน เพื่อความสะดวก รัฐได้ปรับให้เป็น เลขเดียวกับเลขประจำตัวประชาชน (สำหรับบุคคลธรรมดา) และ เลขทะเบียนนิติบุคคล (สำหรับนิติบุคคล) 
 

เลขประจำตัวผู้เสียภาษี vs เลขประจำตัวประชาชน 

บุคคลธรรมดาสัญชาติไทย

ใช้ เลขบัตรประชาชน 13 หลัก แทนเลขประจำตัวผู้เสียภาษีได้ทันที ไม่ต้องขอเพิ่ม 

กรณีที่ต้องยื่นขอใหม่

เช่น บุคคลต่างชาติที่มีรายได้ในไทย, ห้างหุ้นส่วนสามัญ, หรือผู้ที่จดทะเบียน VAT ก่อนวันที่ 1 ตุลาคม 2546 จะต้องไปยื่นขอเลขประจำตัวผู้เสียภาษีโดยตรงจากกรมสรรพากร 
 

เลขประจำตัวผู้เสียภาษี vs เลขทะเบียนนิติบุคคล 

สำหรับ บริษัท ห้างหุ้นส่วน หรือองค์กรที่เป็นนิติบุคคล เลขประจำตัวผู้เสียภาษีจะใช้ เลขทะเบียนนิติบุคคล 13 หลัก ที่ออกโดยกรมพัฒนาธุรกิจการค้า โดยนิติบุคคลต้องแจ้งขอเลขประจำตัวผู้เสียภาษีต่อกรมสรรพากรในพื้นที่ ภายใน 60 วัน นับจากวันจดทะเบียนนิติบุคคลหรือเริ่มกิจการ 
เลขนี้มีความสำคัญต่อธุรกิจมาก เพราะใช้สำหรับ 
- การยื่นและเสียภาษีนิติบุคคล 
- การทำธุรกรรมทางการเงิน 
- การออกเอกสารสำคัญต่าง ๆ ของบริษัท 
 

ขั้นตอนและวิธีการขอเลขประจำตัวผู้เสียภาษี 

แม้หลายกรณีจะสามารถใช้เลขประชาชนหรือเลขนิติบุคคลแทนได้ แต่ก็มีบางกลุ่มที่ต้องยื่นขอเลขประจำตัวผู้เสียภาษีใหม่โดยตรงจากกรมสรรพากร 

สำหรับบุคคลธรรมดา 

- ยื่นแบบ ล.ป.10.1 (คนไทย) 
- ยื่นแบบ ล.ป.10.2 (คณะบุคคล) 
- ยื่นแบบ ล.ป.10.4 (กรณีจด VAT หรือมีหน้าที่หักภาษี ณ ที่จ่ายแต่ไม่ต้องยื่นภาษีเงินได้) 
- ต้องดำเนินการภายใน 60 วัน หลังจากเริ่มมีรายได้ที่ต้องเสียภาษี 

เอกสารที่ใช้ (กรณีบุคคลธรรมดา/ชาวต่างชาติ) 

- สำเนาหนังสือเดินทางหรือใบสำคัญคนต่างด้าว 
- สำเนาทะเบียนบ้าน 
- คำแต่งตั้งผู้จัดการมรดก (ถ้ามี) 

สำหรับนิติบุคคล 

- ใช้เลขทะเบียนนิติบุคคล 13 หลัก 
- ยื่นขอเลขประจำตัวผู้เสียภาษีโดยใช้แบบ ล.ป.10.3 
- ต้องดำเนินการภายใน 60 วัน หลังจากเริ่มกิจการ 
 

สรุป 

พูดง่าย ๆ ก็คือ ถ้าคุณเป็นคนไทย เลขผู้เสียภาษีก็คือเลขบัตรประชาชน แต่ถ้าเป็น บริษัทหรือห้างหุ้นส่วน ก็ใช้เลขนิติบุคคล เพียงแต่ต้องไปยื่นแจ้งต่อสรรพากรให้เรียบร้อย ส่วนกรณีพิเศษอย่างชาวต่างชาติหรือคณะบุคคล ก็จะต้องทำเรื่องขอเลขประจำตัวผู้เสียภาษีเพิ่ม 
การมีเลขประจำตัวผู้เสียภาษีที่ถูกต้องไม่เพียงแต่ทำให้การยื่นแบบและชำระภาษีเป็นเรื่องง่ายขึ้น แต่ยังเป็นก้าวแรกของการเข้าสู่ระบบภาษีดิจิทัลและ e-Tax ที่ช่วยให้การจัดการเอกสารทางธุรกิจสะดวกขึ้น ลดปัญหาความซ้ำซ้อน และทำให้ทุกอย่างโปร่งใส ตรวจสอบได้ หากคุณสนใจก็ทัก Line OA ของเราเพื่อขอรับคำปรึกษาได้เลย : https://liff.line.me/2007600368-jEAYm842?chatcone_state=6858fe0e32770a3973ca90c8   
 

บทความที่เกี่ยวข้อง
Tax Point จุดเสียภาษีกับผู้ใช้ระบบ e tax invoice
ทำความเข้าใจ Tax Point จุดเกิดภาระภาษีทั้งการขายและบริการ พร้อมวิธีออกใบกำกับภาษีผ่านระบบ e-Tax ให้ถูกต้อง ตรงเวลาและแม่นยำ
Nane Ati
26 ก.ย. 2025
วางแผนยื่นภาษีปี 2569 รวมสิทธิ์ลดหย่อนภาษีที่ต้องรู้
วางแผนภาษีบุคคลธรรมดา 2569 ด้วยเช็กลิสต์สิทธิ์ลดหย่อน ใช้ได้จริงทุกหมวด ประกันสุขภาพ กองทุน บ้าน และบริจาค เพื่อยื่นภาษีอย่างมั่นใจ
Nane Ati
24 ก.ย. 2025
e-Tax invoice แบบ Host to Host
ระบบ e-Tax invoice แบบ Host to Host คือการนำส่งข้อมูลภาษีในรูปแบบ XML โดยเชื่อมต่อระบบของคุณเข้ากับกรมสรรพากรโดยตรง และเรามีบริการพัฒนาระบบนี้ให้คุณ
Nane Ati
29 ส.ค. 2025
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ
Powered By MakeWebEasy Logo MakeWebEasy